คือน้ำผึ้งคือน้ำตาคือยาพิษ
คือหยาดน้ำอำมฤตอันชื่นชุ่ม
คือเกสรดอกไม้คือไฟรุม
คือความกลุ้มคือความฝันนั่นแหละรัก
ถ้ารักใครไม่ได้ก็ไม่รัก
แต่กุจักชักดาบเข้าฉาบฉุด
ดั่งโคถึกคึกคะนองลำพองรุด
ใครจะยื้อใครจะยุดจะฉุดใจ
เมื่อรักกันไม่ได้ก็ไม่รัก
ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน
ไม่รักกุกุก็จักไม่รักใคร
เอ๊ะ น้ำตากุไหลทำไมฤๅ
(ขรรค์ชัย บุญปาน, สุจิตต์ วงษ์เทศ : ร่วมกลอนรัก)
แต่กุจักชักดาบเข้าฉาบฉุด
ดั่งโคถึกคึกคะนองลำพองรุด
ใครจะยื้อใครจะยุดจะฉุดใจ
เมื่อรักกันไม่ได้ก็ไม่รัก
ไม่เห็นจักเกรงการสถานไหน
ไม่รักกุกุก็จักไม่รักใคร
เอ๊ะ น้ำตากุไหลทำไมฤๅ
(ขรรค์ชัย บุญปาน, สุจิตต์ วงษ์เทศ : ร่วมกลอนรัก)
เสียเจ้าราวร้าวมณีรุ้ง
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
(อังคาร กัลยาณพงศ์ : เสียเจ้า)
มุ่งปรารถนาอะไรในหล้า
มิหวังกระทั่งฟากฟ้า
ซบหน้าติดดินกินทราย
(อังคาร กัลยาณพงศ์ : เสียเจ้า)
ตาต่อตามิได้หมายถึงจิต
กายอยู่ชิดเมื่อใจเอื้อมไม่ถึ
งยิ้มตอบยิ้มใช่สลักรักรัดรึง
คนใกล้จึงแสนไกลในชีวิต ๚
กายอยู่ชิดเมื่อใจเอื้อมไม่ถึ
งยิ้มตอบยิ้มใช่สลักรักรัดรึง
คนใกล้จึงแสนไกลในชีวิต ๚
(สินี เต็มสงสัย : คนใกล้)
เธอจะอยู่แห่งไหน...ในผืนหล้า
รู้เถิดว่าพี่ครวญหวนถวิลไม่สิ้
นแรงร่างล้มลงถมดิน
พี่ไม่สิ้นคำนึง...คิดถึงเธอ
รู้เถิดว่าพี่ครวญหวนถวิลไม่สิ้
นแรงร่างล้มลงถมดิน
พี่ไม่สิ้นคำนึง...คิดถึงเธอ
ที่มา........http://www.st.ac.th/bhatips/glon.htm
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น